インバウンドでタイ人を集客! 事例多数で万全の用意 [PR]
ナムジャイブログ
ブログポータルサイト「ナムジャイ.CC」 › Hello Japan

2011年11月22日

CamiApp สมุตโน้ตใน Smart Phone



CamiApp เป็นแอพพลิเคชั่นสมุดโน้ตแนวใหม่สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน โดยมีวิธีใช้ง่ายๆ คือ จดโน้ตลงในกระดาษแล้วก็ใช้ CamiApp ถ่ายมาเก็บเป็นโน้ตในโทรศัพท์มือถือได้เลย เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแล้วทั้งผู้ใช้ iPhone และ Android

บริษัท KOKUYO S&T เริ่มโครงการพัฒนา CamiApp ในเดือนมิถุนายน ปี 2010 เป็นช่วงวิจัยข้อมูลต่างๆ และเริ่มลงมือพัฒนาโปรแกรมจริงๆ ในช่วงต้นปี 2011 นี้ และในช่วงนั้นเองก็ถูกบริษัท King Jim เปิดตัวแอพพลิเคชั่น Short Note ออกมาตัดหน้าเสียก่อน ทางทีมพัฒนา CamiApp เลยตั้งใจว่า ต่อให้ต้องใช้เวลานานก็จะต้องพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ดีกว่า Short Note ให้ได้ โดยหาข้อมูลเพิ่มเติมจากการสัมภาษณ์ผู้ใช้ Short Note แล้วนำมาวิเคราะห์จุดด้อยและพัฒนาปรับปรุงใหม่ ทำให้ CamiApp ไม่มีข้อเสียเหมือนกับ Short Note นั่นเอง

CamiApp เป็นสมุดโน้ตดิจิตอล จัดขนาดกระดาษให้พอดีหน้าจอโดยอัตโนมัติ คุณสามารถตั้งชื่อเรื่อง, แท็ก, ตั้งวันที่, คอมเมนท์, จัดแยกประเภทของโน้ต, เก็บและแชร์โน้ตให้คนอื่นๆ ได้ทาง e-mail, Evernote, Dropbox และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ

สนใจดาวน์โหลดได้ที่ >> CamiApp

วิธีใช้ CamiApp
1. เปิดโปรแกรมแล้วเลือกประเภทของโน้ต จากนั้นก็ถ่ายภาพ (CamiApp จะจำขนาดกระดาษและจัดหน้ากระดาษให้พอดีหน้าจอโดยอัตโนมัติ)
2. จัดแยกประเภทของโน้ต
3. ปรับแต่ง แก้ไขโน้ตของคุณ
4. เซฟเก็บไว้ หรือแชร์ส่งต่อทาง e-mail หรืออัพโหลดไปที่ Evernote, Dropbox ฯลฯ (ไฟล์ที่แชร์เป็นฟอร์แมต JPEG)


CamiApp (KOKUYO S&T)



Short Note (King Jim)



สมุดโน้ตแบบห่วง ใช้คู่กับ CamiApp มีทั้งหมด 8 แบบให้เลือก



สามารถแบ่งประเภทของโน้ตได้อัตโนมัติโดยฝนที่ Action Marker ตรงมุมซ้ายบนของแต่ละหน้า สามารถแบ่งได้ 7 แบบ



สามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติมโน้ตได้ โดยเลือกสีที่จะใช้เน้นให้เห็นง่ายๆ ได้ด้วย



สามารถแชร์ได้ทั้งทาง E-mail, Evernote, Dropbox โดยอยู่ในฟอร์แมต JPEG
  


Posted by JGB Staff at 19:56Comments(0)

2011年11月14日

ฉลองยกเลิกกฎห้ามจับปูหิมะ



เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ยกเลิกกฎหมายห้ามจับปูหิมะ ชาวเมืองวาจิมะ (輪島 / Wajima) จังหวัดอิชิกาวะ (石川 / Ishikawa) จึงได้จัดงานแข่งขันกินปูแสนอร่อยเร็วที่สุดในญี่ปุ่นขึ้น

ที่หน้างานได้มีการวางจำหน่ายปู Kanougani (ตัวผู้) และปู Kobakogani (ตัวเมีย) ที่ต้มสุกแล้วจำนวน 100 เซ็ต เพื่อให้ผู้ที่มาเที่ยวชมงานได้ลิ้มรสชาติแสนอร่อยของปูที่เพิ่งทำสุกใหม่ๆ ได้ที่งานอีกด้วย

นอกจากนี้ วันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเทศกาลปูเมืองวาจิมะ (輪島かにまつり / Wajima Crab Festival) ก็จะมีการจัดงานรื่นเริงมากมาย และยังมีการย่างปูด้วยเตาถ่านซึ่งทุกคนต่างก็เฝ้ารอที่จะลิ้มรสกันมากมาย  


Posted by JGB Staff at 19:10Comments(0)

2011年11月11日

Kasa Deco ร่มคันเดียวในโลก



ที่ประเทศญี่ปุ่น มียอดขายร่มพลาสติกสูงถึง 60 ล้านคันต่อปี ซึ่ง 80% ของร่ม หรือประมาณ 48 ล้านคัน จะมีอายุการใช้งานเพียงแค่หนึ่งปีหรือไม่ถึงปีเท่านั้นเอง ร่มพลาสติกสามารถหาซื้อได้ง่าย หยิบใช้ได้สะดวก และก็ทิ้งได้ง่ายอีกด้วย ด้วยเหตุนี้บริษัท A-one (เขตจิโยดะ, โตเกียว) จึงได้คิดสินค้าใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า "Kasa Deco Seal" เป็นสติ๊กเกอร์ลายสวยงามน่ารัก ให้เราได้ใช้ตกแต่งร่มของเราตามใจชอบ คนจะได้ให้ความสำคัญกับร่มพลาสติกมากขึ้น จะได้ไม่ต้องทิ้งร่มกันนั่นเอง

ตัวสินค้าก็เป็นไปตามชื่อ คือเป็นสติ๊กเกอร์พลาสติกใสๆ ลายน่ารักๆ ให้เราสามารถ "ตกแต่ง" ร่มของเราได้ง่ายๆ มีทั้งลายหัวใจ รูปสัตว์ต่างๆ ลายภาพตัดกระดาษสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์นก็มีให้เลือกกันมากมาย ตัวสติ๊กเกอร์ก็ใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้แปะกับร่มได้ง่ายและไม่หลุด หลังจากทดลองขายในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้รับเสียงตอบรับดีมาก และเริ่มจำหน่ายทั่วประเทศในเดือนกันยายน โดยพัฒนาลวดลายต่างๆ เพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ

ลวดลายของสติ๊กเกอร์มีทั้งแบบน่ารักๆ สำหรับคุณผู้หญิง หรือลายสำหรับผู้ชายก็มี ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าทั้งชายและหญิง การตกแต่งร่มพลาสติกนี้นอกจากจะช่วยให้เราจำร่มของตัวเองได้ง่าย ไม่หยิบผิดสลับกับคนอื่นแล้ว ยังทำให้เรารู้สึกว่าร่มที่เราออกแบบลายเองนี้มีความสำคัญ จนไม่อยากจะทิ้งมันง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมาอีกด้วย ร่มที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้ จะต้องทำให้คุณรู้สึกสดชื่นแจ่มใสได้แม้ในวันที่ฝนตกอย่างแน่นอน

ใครสนใจอยากซื้อหามาใช้ ลองเข้าไปชมในเว็บไซต์ Kasa Deco Seal (Umbrella Decoration Sticker) ดูนะคะ  


Posted by JGB Staff at 20:01Comments(0)

2011年10月14日

Wall Deco Clock นาฬิกาตามใจ



Wall Deco Clock นาฬิกาติดผนังที่เราสามารถออกแบบลายได้เองอย่างอิสระ เป็นสินค้าของบริษัท Prosante (จังหวัดโอซาก้า) ออกวางขายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มีทั้งหมด 60 แบบให้ได้เลือกซื้อกัน ในเซ็ตจะมีสติ๊กเกอร์ตัวเลขและภาพประกอบต่างๆ มาให้ ซึ่งเราจะต้องนำมาติดและตกแต่งด้วยตัวเราเอง

แนวคิดของ Wall Deco Clock มาจากความเบื่อนาฬิกาที่อยู่ในกรอบแบบเดิมๆ อยากจะทำให้นาฬิกาออกนอกกรอบดูบ้างนั่นเอง และด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่และดีไซน์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ทำให้ Wall Deco Clock ฮิตติดตลาดทันทีตั้งแต่เปิดตัว

ใครสนใจอยากซื้อหามาใช้ ลองเข้าไปชมในเว็บไซต์ Wall Deco Clock ดูนะคะ




  


Posted by JGB Staff at 20:04Comments(0)

2011年09月28日

เดินทางสบายๆ กับรถบัสสุดหรู

วันนี้เราจะพาไปรถบัสข้ามจังหวัดหรือรถทัวร์ของญี่ปุ่นกันค่ะ ระยะนี้แต่ละบริษัทได้ทำการอัพเกรดอะไรหลายๆ อย่างเพื่อสู้กับคู่แข่ง และเพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีที่สุด รถทัวร์ญี่ปุ่นแตกต่างกับรถทัวร์บ้านเรายังไง ไปดูกันค่ะ :)



รถบัสด่วนพิเศษ 12 ที่นั่งที่หรูหราและเป็นส่วนตัว
โทคุชิมะ <----> โตเกียว (บริษัทไคฟุคังโค จังหวัดโทคุชิมะ)


My Flora เป็นชื่อของรถบัสคนนี้ เริ่มให้บริการในเดือนเมษายนที่ผ่านมานี่เอง มีทั้งหมด 12 ที่นั่ง กว้างขวาง สะดวกสบาย และมีความเป็นส่วนตัว ในเดือนตุลาคมจะเพิ่มจำนวนรถเป็น 2 คัน เพื่อให้บริการได้ทุกวัน ค่าบริการหนึ่งเที่ยว (One-way) ราคา 12,000 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง


ที่นั่งแบ่งเป็น 2 แถว แถวละ 6 ที่นั่ง แต่ละที่มีฉากไม้กั้นและมีผ้าม่านให้รูดปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว ผู้ชายที่ขายาวก็สามารถยืดขาได้สบายๆ จึงนิยมใช้เวลาเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด



มีห้องน้ำขนาดใหญ่ที่ส่วนท้ายของรถ นอกจากนี้ยังมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกด้วย



My Flora ใช้เงินทุนถึง 80 ล้านเยนเลยทีเดียว ในคอนเซ็ปต์ "รถด่วนพิเศษที่หลับสบายและทันสมัย"



รถบัสสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์น สำหรับวัยกลางคน
อาโอโมริ <----> โตเกียว (บริษัทโคนันบัส จังหวัดอาโอโมริ)


รถบัสด่วนพิเศษแบบ 3 ที่นั่ง เริ่มให้บริการเดือนเมษายนปีนี้เช่นเดียวกัน แบ่งเป็นที่นั่งธรรมดา 18 ที่ (กว้าง 50 เซนติเมตร) ราคาต่อ 1 เที่ยว (One-way) 7,500 เยน และยังมีที่นั่งพิเศษเรียกว่า Azuma seat ที่มีเพียง 6 ที่เท่านั้น (กว้าง 75 เซนติเมตร) ราคาหนึ่งเที่ยว 8,500 เยน ใช้เวลาเดินทางเที่ยวละประมาณ 9 ชั่วโมงครึ่ง


ที่นั่งแถวขวาสุดจะเป็น Azuma seat สำหรับนั่งสบายๆ



ภายในตกแต่งแบบคลาสสิก ใช้พื้นไม้ดูแล้วสงบ เอาใจวัยกลางคน ในคอนเซ็ปต์ "ญี่ปุ่นโมเดิร์น"



รถด่วน Tsugaru ที่ติดตั้ง Azuma seat ไว้



ที่นั่งแบบอเนกประสงค์เพื่อเอาใจสุภาพสตรี
คานาซาวะ,โทยามะ <----> โตเกียว (บริษัทอิรุกะโคซู จังหวัดโทยามะ)


รถบัสคันใหม่ "Dolphin Liner" เริ่มให้บริการครั้งแรกในเดือนเมษายนปีนี้อีกเช่นเดียวกัน เป็นรถที่มีแถวที่นั่งเรียงแบบหน้ากระดาน 4 ที่นั่ง แต่จัดให้นั่งได้แค่แถวละ 2 คน เพราะที่นั่งข้างๆ ถูกทำให้เป็นช่องวางขานั่นเอง การเดินทางหนึ่งเที่ยวใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง ราคา 8,500 เยน (One-way)


สามารถยืดขาพาดไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าได้ แต่สำหรับชายที่สูง 170 เซนติเมตรขึ้นไป ก็ยังบอกว่าแคบไป



เปิดดูดีวีดีที่นำมาเองก็ได้



พื้นที่ของที่นั่งข้างๆ ที่ทำให้ว่าง ถูกทำให้เป็นที่วางของ แต่ความกว้างของที่นั่งก็เท่ากับรถบัส 4 ที่นั่งตามปกติ



รถบัส Dolphin Liner
  


Posted by JGB Staff at 21:21Comments(0)

2011年09月26日

แว่นตากระดาษพกไว้เผื่อฉุกเฉิน?



วันนี้เรามีแว่นตาสำรองมาแนะนำให้สำหรับผู้ที่ต้องใส่แว่น เพื่อในเวลาฉุกเฉินแล้วแว่นตาที่เราใส่อยู่เกิดหักหรือหายไป จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการมองเห็นอีกต่อไป

แว่นตากระดาษนี้ ถ้ามองผ่านๆ ก็คงคิดว่าเป็นแค่กระดาษรูปทรงแว่นตาเท่านั้น เลนส์ก็ไม่มี แต่ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่ามีรูเล็กๆ ใช่มั้ยคะ? รูนั้นแหละจะเป็นจุดรวมสายตา ทำให้เรามองเห็นได้จากจุดนั้น คนที่ปกติแล้วสายตาไม่ดี ถ้าใส่แว่นตาอันนี้แล้วจะทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้นมาก สามารถอ่านตัวอักษรเล็กๆ ได้ชัดขึ้นด้วย ถ้าคุณทำแว่นตาหาย แว่นตากระดาษอันนี้ก็เป็นตัวช่วยได้ดีทีเดียว



แว่นตากระดาษอันนี้ ออกแบบโดยใช้หลัก Pinhole หรือการมองผ่านรูเล็กๆ ทำให้คนที่สายตาไม่ดี สามารถมองเห็นได้ชัดขึ้นด้วยแว่นตากระดาษนี้ โดยไม่จำเป็นต้องมีเลนส์แว่น

ทางผู้คิดค้นแว่นตากระดาษอันนี้กล่าวว่า ใช้เวลาพัฒนาแว่นตากระดาษนานถึง 4 ปี โดยมีการทดลองมาหลายรุ่น และก็แก้ไขพัฒนามาเรื่อยๆ จนมาถึงผลิตภัณฑ์รุ่นที่ 4 ก็สำเร็จลง สามารถใช้ได้จริง และเพราะแว่นตาชนิดนี้ทำจากกระดาษ จึงทำให้พกพาได้ง่าย ช่วยแก้ปัญหายามฉุกเฉินได้ดีทีเดียว  


Posted by JGB Staff at 20:23Comments(0)

2011年09月05日

Nosenose Butter Shoyu

ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังมีกระแส Taberu Rayu บูมมากๆ Taberu Rayu เป็นอาหารที่คล้ายกับน้ำพริกเผาบ้านเรา คนญี่ปุ่นนิยมกินกับข้าวสวยเป็นกับข้าว ที่นู่นจะเค้าจะเรียกอาหารแนวนี้ว่า "คู่หูของข้าวสวย" เลยทีเดียว และตอนนี้ก็กำลังมีกระแสคู่หูของข้าวสวยชนิดใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามอง นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีโชยุเป็นส่วนกอบ เป็นแนวทางใหม่ในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทนี้นั่นเอง



"Nosenose Butter Shoyu" คือชื่อของผลิตภัณฑ์นี้ โดยใส่กระเทียมที่หมักด้วยโชยุลงไปในเนย โดยที่ส่วนผสมหลักๆ ก็คือเนยนั่นเอง ปกติแล้วผลิตภัณฑ์ประเภทเนยนี้ ไม่ค่อยมีใครนิยมนำมากินกับข้าวสวยกัน มักจะนำมาทาขนมปังกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีเมนูอาหารสไตล์ตะวันตกที่ชื่อ Garlic Butter Rice ที่มีการนำเนยมาเป็นส่วนผสมหลักและสามารถเข้ากันได้ดีกับข้าว จึงนำแนวคิดนี้มาพัฒนาเป็น Nosenose Butter Shoyu นั่นเอง

Nosenose Butter Shoyu เป็นสินค้าของบริษัท EveryThing จากจังหวัดยามากุจิ เริ่มวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง ราคากระปุกละ 498 เยน โดยในเดือนแรกสามารถขายได้ 4,000 กระปุก และในเดือนสิงหาคมก็ขายได้มากเป็นเท่าตัว 8,000 กระปุกเลยทีเดียว

ใครสนใจอยากลองหามาชิมลองเข้าไปดูในเว็บไซต์บริษัทดูนะคะ
Nosenose Butter Shoyu  


Posted by JGB Staff at 20:08Comments(0)

2011年08月31日

Yuki no Mi ขนมแนวใหม่สุดฮิต




ในญี่ปุ่นทุกวันนี้มีขนมแบบใหม่ออกมามากมาย ทั้งขนมสไตล์ญี่ปุ่นและสไตล์ตะวันตก แต่ละผลิตภัณฑ์ต่างก็มีไอเดียใหม่ๆ ที่แปลกแหวกแนวเพื่อให้ติดตลาด และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่พูดถึง ก็มีอยู่ชนิดหนึ่งที่สามารถขายได้ถึง 5,000 ชิ้น ในเวลาแค่ 2 วันหลังจากเริ่มวางขาย เป็นขนมมองภายนอกดูเหมือนไดฟุกุ แต่มีความนุ่มเหมือนกับมาชแมลโล ชื่อ "Washumaro Yuki no Mi" (和シュマロ雪の実) ผลิตภัณฑ์ของ Gyokkado (玉華堂) บริษัทขนมจากจังหวัดชิสุโอกะ

Yuki no Mi จะมีสัมผัสนุ่มๆ เหมือนกับมาชแมลโล ตอนนี้มีวางจำหน่าย 3 รสชาติ คือ ชามัทฉะที่ใช้ชาเขียว 100% จากเกียวโต, ครีมพุดดิ้งสอดไส้คาราเมลหวานๆ และไส้ครีมสตรอว์เบอร์รี่ที่ได้ผสมเนื้อสตรอว์เบอร์รี่ลงไปด้วย

เสียงตอบรับจากลูกค้าส่วนใหญ่ต่างก็บอกว่า "เป็นขนมที่แปลกใหม่และเนื้อนุ่มอร่อยดี" หรือไม่ก็บอกว่า "สีสวย ดูแล้วน่ารัก" ราคาของ Yuki no Mi คือ 1 ชิ้น 120 เยน และแพ็ค 6 ชิ้นราคา 870 เยน สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าปลีกทั่วไป หรือสั่งจากบริษัทเลยก็ได้

Yuki no Mi เป็นขนมที่กินแบบธรรมดาก็จะได้สัมผัสกับความนุ่ม หรือนำไปแช่ให้ไส้ข้างในเย็นก็จะเหมือนกับได้กินไอศครีมไปด้วย ก็อร่อยไปอีกแบบ หากใครมีโอกาสไปญี่ปุ่นช่วงนี้ แนะนำให้ลองหาชิมกันดูนะคะ รับรองว่าต้องติดใจแน่นอน  


Posted by JGB Staff at 20:34Comments(0)

2011年08月22日

Solar Bag หายห่วงเรื่องแบตหมด




หลายคนคงจะเคยเจอปัญหาโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ แบตหมดระหว่างที่เราอยู่นอกบ้านกันใช่มั้ย ?

ใครที่เคยเจอปัญหาที่ว่านี้ ลองมาดูอุปกรณ์ใหม่ที่กำลังฮิตในญี่ปุ่นขณะนี้กัน " Voltaic" กระเป๋าที่ติดตั้งแผงวงจรโซลาร์เซลไว้ พัฒนาโดยชาวอเมริกัน ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้ดีมาก นับตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน แม้จะมีราคาสูงถึง 28,350 เยน แต่ก็ขายได้มากกว่า 300 ใบแล้ว

กระเป๋าเป้ใบนี้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลไว้ 2 แผง เพื่อให้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะไม่มีที่ให้ชาร์จแบตเตอรี่ แค่มีแสงอาทิตย์ก็สามารถใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้สบายๆ

สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มด้วยการรับแสงต่อเนื่องประมาณ 7-8 ชั่วโมง โดยพลังงานไฟฟ้าที่ได้จะถูกส่งไปเก็บใน USB Battery Pack ที่มีขนาดแบตเตอรี่ 3000mA ซึ่งเยอะประมาณ 3-4 เท่าของแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือทั่วไปเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีอแดปเตอร์สำหรับเสียบชาร์จแบตฯ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น MP3 Player, PSP อีกด้วย

ดูรายละเอียดและกระเป๋าโซลาร์เซลแบบต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ >> AC Gears Japan  


Posted by JGB Staff at 20:06Comments(0)

2011年08月18日

สินค้าดับร้อน พัดลมในร่มผ้า!?

สำหรับประเทศไทยที่ร้อนตลอดปี หลายคนก็คงจะชินกับอากาศร้อนแล้ว แต่ชาวญี่ปุ่นนั้นไม่สามารถทนได้เหมือนเรา เพราะในปีนึง ฤดูร้อนก็มีอยู่ไม่กี่เดือน แต่ในไม่กี่เดือนนั้น อากาศจะร้อนมากๆ ร้อนยิ่งกว่าประเทศไทยเราเสียอีก ชาวญี่ปุ่นจึงต้องหาวิธีดับร้อนกันสารพัดวิธี เพราะจะให้เปิดแอร์ตลอดเวลาก็ใช่ที่ ทั้งเปลืองไฟ เปลืองเงิน แล้วก็ทำให้โลกร้อนอีก

และก็มีชาวญี่ปุ่นหัวใส นำเอาพัดลมเล็กๆ ลักษณะคล้ายพัดลมในเครื่องคอมพิวเตอร์ไปติดตั้งในเสื้อผ้า จนพัฒนากลายมาเป็นสินค้ายอดนิยมที่กำลังขายดีอยู่ในขณะนี้ โดยผลิตภัณฑ์นี้มีชื่อว่า คูโจฟุคุ (空調服 - Kuuchoufuku) แปลเป็นไทยได้ว่า "เสื้อผ้าปรับอากาศ" ผลิตโดยบริษัทชื่อเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ มีสินค้าขายดีอยู่หลายอย่าง ลองไปดูกัน


เสื้อแขนยาวปรับอากาศ (ราคารวมชุดแบตเตอรี่ 9,900 เยน) ติดตั้งพัดลมไว้ 2 ตัว ใช้พลังงานจากถ่านไฟฉายได้ทั้งแบบธรรมดาและแบบชาร์จ เวลาเปิดพัดลมแล้วจะพองๆ เหมือนในรูป


กางเกงขายาวปรับอากาศ (ราคารวมชุดแบตเตอรี่ 12,600 เยน) เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ขายดีจนแทบจะผลิตไม่ทันส่งขาย ใช้พลังงานจากถ่านไฟฉาย 4 ก้อน หากใส่กางเกงตัวนี้แล้วนั่งทำงานที่โต๊ะนานๆ ก็จะไม่ร้อน ไม่หงุดหงิด ทำงานได้เรื่อยๆ เลยทีเดียว


ผลิตภัณฑ์ของบริษัท Kareshiki คือ หมวกปรับอากาศ "Cap-SA" (キャップーSA) ราคา 3,780 เยน ใช้พลังงานถ่านไฟฉาย 4 ก้อน คำว่า SA น่าจะย่อมาจาก "Suzushii Anzen" ที่แปลว่า เย็นและปลอดภัย เวลาสวมจะมีสายต่อออกมาทางด้านหลังแบบในรูป ส่วนกล่องแบตเตอร์รี่ก็จะเหน็บไว้ที่เอว และคนที่สวมก็อาจจะได้ยินเสียงมอเตอร์เวลาทำงานด้วย


ด้านในของหมวกจะมีลักษณะเหมือนกับหมวกกันน็อค คือจะแข็งๆ ไม่แนบติดหัวเหมือนหมวกแก็ปทั่วไป สามารถถอดเปลี่ยนลายหมวกข้างนอกได้


แบบหมวกฟางก็มี ชื่อว่า "Mugiwara-MS" (麦わら-MS) คำว่า MS ย่อมาจากคำว่า "Meccha Suzushii" แปลว่า เย็นมากๆ


My Fan Mobile หรือ พัดลมพกพาของฉัน (แปลตรงตัวไปมั้ย? XD) จากบริษัท DAISUKU เป็นพัดลมพกพาราคา 987 เยน ทำงานด้วยพลังงานจากถ่านไฟฉาย 3 ก้อน มีขนาด กว้าง 7.3cm ยาว 13cm ลึก 2.6cm หนักประมาณ 160 กรัม (รวมแบตเตอรี่) เวลาใช้ก็นำมาคล้องคอ พกพาได้สะดวก แล้วก็ปรับความแรงลมได้ด้วย

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ลองดูตามลิงค์ข้างล่างนี้
Kuuchoufuku
Kareshiki
DAISUKU  


Posted by JGB Staff at 19:52Comments(0)

2011年08月04日

แก้วเบียร์น้ำแข็ง ดับร้อนง่ายๆ




วันนี้มีสินค้าแปลกๆ ไอเดียดีๆ มาแนะนำกันอีกแล้วค่ะ เป็นชุดทำ "แก้วเบียร์น้ำแข็ง" ที่สามารถทำใช้เองที่บ้านได้ง่ายๆ ผลิตโดยบริษัท EHARA (เขตสุมิดะ, โตเกียว) เริ่มวางขายไปตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีกระแสตอบรับดีมาก ขายหมดสต็อก 50,000 ชุดภายใน 3 สัปดาห์ จนต้องเร่งผลิตเพิ่มกันเลยทีเดียว

นายมาซาฮิโกะ คะจิตะ ผู้รับผิดชอบการผลิตสินค้านี้เล่าถึงที่มาของแก้วเบียร์น้ำแข็งว่า "สาเหตุที่คิดแก้วเบียร์น้ำแข็งขึ้นมาก็เพราะว่า อยากจะดื่มเบียร์ให้อร่อยมากขึ้น แก้วที่ทำจากน้ำแข็งจะทำให้เบียร์ค่อยๆ เย็นขึ้น และได้รสชาติที่อร่อยถูกปากมาก และยังดูแล้วสวยดีอีกด้วย"



นายมาซาฮิโกะบอกอีกว่า เขาพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2010 แล้ว นอกจากจะดื่มเบียร์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิสกี้, ไวน์, น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมก็สามารถใช้แก้วนี้ดื่มได้ หรือจะทำโซเมงด้วยแก้วน้ำแข็งนี่ก็ยังได้ แถมอร่อยดีอีกด้วย นอกจากผู้ใหญ่แล้ว เด็กๆ ก็สามารถสนุกกับแก้วน้ำแข็งนี้ได้เหมือนกัน

เคล็ดลับการทำแก้วน้ำแข็งให้สวยงามคือ ใช้น้ำที่ต้มแล้วทำแก้วนี้จะทำให้ได้รสชาติที่อร่อยขึ้น และหลังจากที่แก้วแข็งตัวแล้ว ให้วางทิ้งไว้ประมาณ 6-10 นาที แล้วค่อยๆ ดึงแก้วออกมา จะได้แก้วที่สวยงามกำลังดี



ส่วนใหญ่แล้วคนมักจะคิดว่า "เบียร์เป็นเครื่องดื่มประจำฤดูร้อน" แต่ความจริงแล้วช่วงเวลาที่มีการบริโภคเบียร์มากที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ในขณะที่กินหม้อไฟก็ดื่มเบียร์ในแก้วน้ำแข็งไปด้วย จะได้ความรู้สึกสุดยอดมากเลยทีเดียว เราจริงสามารถเพลิดเพลินกับแก้วน้ำแข็งนี้ได้ตลอดทั้งปี ปัจจุบันชุดทำแก้วน้ำแข็งที่วางขายตามร้านค้าทั่วไปต่างก็หมดเกลี้ยงแล้ว แต่ยังสามารถสั่งจองทางอินเทอร์เน็ตได้ที่เว็บไซต์นี้ >> CLICK  


Posted by JGB Staff at 18:36Comments(0)

2011年08月03日

STOP CRY BABY พวงกุญแจกล่อมลูก




ปัญหาหนักใจคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกทารกอันดับหนึ่งก็คงหนีไม่พ้น เรื่องที่ลูกชอบร้องไห้โยเย หรือร้องตอนกลางดึกสินะคะ วันนี้เรามีไอเทมใหม่ที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้มาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมในหมู่คุณแม่ชาวญี่ปุ่นมากๆ ด้วย

Agamatsu (เขตไทโต, โตเกียว) บริษัทผู้ผลิตของเล่นรายหนึ่งในญี่ปุ่น ได้วางจำหน่าย "Stop Cry Baby" เครื่องที่จะส่งสัญญาณ White noise ออกมา ทำให้ทารกหยุดร้องไห้ เวลานอนตอนกลางคืนก็จะหลับตลอดคืนค่ะ White noise คือสัญญาณเสียง Flat spectrum คล้ายๆ กับเสียงพัดลม เครื่องดูดฝุ่น หรือเสียงลมรั่วออกจากบอลลูน ซึ่งเป็นบรรยากาศเสียงที่ทารกเคยชินจากตอนที่อยู่ในครรภ์แม่ 9 เดือน เมื่อเด็กคลอดออกมาก็ไม่คุ้นชินกับบรรยากาศเสียงภายนอก ก็เลยร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง เราจึงต้องสร้างบรรยากาศเสียงที่เด็กคุ้นชินให้เค้านั่นเอง



Stop Cry Baby นี้จะมี White noise ให้เลือกถึง 4 แบบเสียง เมื่อลูกร้องไห้ก็เลือกเสียงที่เหมาะสมให้ลูกน้อยของคุณฟังได้ และที่ตัวพวงกุญแจก็มีไฟ LED 7 สี ซึ่งจะทำให้เด็กๆ สนใจและช่วยให้หยุดร้องไห้ได้ และหลังจากที่ลูกหยุดร้องไห้แล้ว ยังมีเสียงดนตรีบำบัดอีก 2 แบบเสียงให้เลือก ซึ่งจะช่วยให้ลูกนอนหลับสนิทไม่ตื่นเพราะเสียงรบกวนได้ง่ายๆ



พวงกุญแจกล่อมเด็กนี้มีที่มาจากแอพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ซึ่งหลังจากนำมาประยุกต์เป็นพวงกุญแจน่ารักๆ แบบนี้ ก็ได้รับความนิยมมาก สามารถขายได้มากถึง 700 ชิ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็คือคุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ ซึ่งต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วยแก้ปัญหาได้ดีมาก ช่วยดึงดูดความสนใจเด็กจนหยุดร้องไห้ได้ดี

Stop Cry Baby ราคา 1,344 เยน สามารถหาซื้อได้ตามเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังทั่วไป

รายละเอียดเพิ่มเติม (ภาษาญี่ปุ่น) >> Stop Cry Baby  


Posted by JGB Staff at 19:30Comments(0)

2011年07月25日

Zipbuds หูฟังสุดแนวแถมใช้ง่าย




ตอนที่เราอยากจะฟังเพลงจาก iPod, MP3 Player หรือโทรศัพท์มือถือ แล้วพอจะหยิบหูฟังออกมาจากกระเป๋าก็พบว่า..มันพันกันยุ่งเหยิงไปหมด หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ใช่มั้ยคะ? พอเจอบ่อยๆ แล้วก็จะรู้สึกหงุดหงิดน่ารำคาญ จนพาลหมดอารมณ์ฟังเพลงไปเลยก็มี แต่นับจากนี้ไปเราคงไม่ต้องเจอปัญหาแบบนี้แล้ว เพราะ Zipper Earphone ช่วยได้



Century (เขตไทโตะ, โตเกียว) ได้เปิดตัว Zipbuds หูฟังแนวใหม่ ที่ใช้ซิปเป็นตัวช่วย ทำให้สายไม่พันกัน และดูเท่อีกด้วย (ความจริงฝรั่งเค้าก็ใช้มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แปลกใจว่าทำไมญี่ปุ่นเพิ่งมีข่าว) ด้วยไอเดียที่นำซิปมาใช้ ทำให้สายหูฟังของเราไม่พันกัน เก็บง่าย หยิบใช้สะดวก และเวลานำมาใช้ก็ดูเท่ดี อวดสาวได้อีกด้วย (เหมือนในคลิปโฆษณาข้างล่างนี้)



^ และยังมีคลิปที่ช่วยไม่ให้หูฟังหลุดเวลาออกกำลังกาย อย่างเช่น วิ่งจ็อกกิ้ง อีกด้วย



นอกจากการออกแบบที่สวยงามแล้ว เรื่องคุณภาพเสียงก็ไม่ได้แย่มากมาย อยู่ในระดับคุณภาพของหูฟังระดับกลางๆ ราคาประมาณ 1,000-2,000 บาทได้ ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ได้ลองใช้ Zipbuds แล้วก็พอใจในคุณภาพเสียงของหูฟังตัวนี้



Zipbuds เพิ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง มียอดขายกว่า 2,000 ชิ้นภายใน 1 เดือน ซึ่งลูกค้าที่ซื้อไปส่วนใหญ่ต่างก็บอกว่า "น่ารักดี", "ใช้งานสะดวกดี", "ดีไซน์สวยดี เหมาะกับแฟชั่น" (ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น)



ราคาของ Zipbuds ที่ญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 4,980 เยน ส่วนราคาสากลอยู่ที่ $39.99

สนใจข้อมูลเกี่ยวกับ Zipbuds เพิ่มเติม เข้าไปดูที่เว็บไซต์ข้างล่างนี้ได้เลย
Zipbuds (ภาษาญี่ปุ่น)
Zipbuds (ภาษาอังกฤษ)

  


Posted by JGB Staff at 19:43Comments(0)

2011年07月21日

Furisaku ขนมทานกับข้าวก็อร่อย


Furisaku (45 กรัม) ราคา 120 เยน


เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา บริษัท Tohato (โทชิมะ, โตเกียว) ได้วางจำหน่ายขนมขบเคี้ยวแนวใหม่ "Furisaku" ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ทานเปล่าๆ ก็ได้ ทานกับข้าวก็ได้" เป็นขนมขบเคี้ยวแนวใหม่ที่สามารถทานกับข้าวสวยแทนกับข้าวได้ โดยไอเดียของ Furisaku นี้มาจากพนักงานคนหนึ่งของบริษัทที่ตอนสมัยเป็นนักเรียนไม่มีเงินจนต้องเอาขนมมากินกับข้าวเปล่า แล้วก็พบว่า "อร่อยกว่าที่คิด" จึงได้นำมาพัฒนาเป็น Furisaku นั่นเอง



Furisaku โรยข้าว


Furisaku พัฒนาโดยการนำขนมขบเคี้ยวหลายๆ แบบมาลองทานกับข้าวหรือพาสต้า แล้วเปรียบเทียบรสชาติ สัมผัส ความเข้ากันได้ จนได้ข้อสรุปว่า "ขนมที่ปรุงรสจัดจะอร่อยกว่า ขนมที่มีน้ำมันเยอะ" หลังจากได้ข้อสรุปก็นำมาพัฒนาจนเป็น Furisaku ขึ้นมา นอกจากนี้ ทั้งรูปร่างและความกรุบกรอบของ Furisaku ก็ได้คิดมาเป็นอย่างดีเพื่อให้เข้ากับข้าวสวยได้ดีนั่นเอง



Furisaku ใน Chaduke


หลังจากเปิดตัว Furisaku ก็ได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ จนมียอดขายมากถึง 1.5 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายเวลาที่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกจำหน่าย หลายคนที่ลองชิมแล้วก็บอกว่า "ดูแปลกแต่อร่อยกว่าที่คิด" ซึ่งบริษัท Tohato ผู้ผลิตก็บอกว่า "นอกจากจะใช้โรยข้าวแล้ว ก็สามารถใช้ในเมนูต่างๆ ได้อีก เช่น Chaduke (茶漬け), ทานกับสลัด, ข้าวกล่อง, ท็อปปิ้งไอศกรีมหรือขนมหวานต่างๆ   


Posted by JGB Staff at 19:40Comments(0)

2011年07月19日

Tsukemen กึ่งสำเร็จรูป Nissin

Nissin Raoh บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท Nissin ที่วางขายครั้งแรกในเดือนกันยายน ปี 2010 ขายดีมากๆ จนถึงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ขายไปกว่า 2 ล้านถ้วยแล้ว และตอนนี้ก็ได้นำ Tsukemen มาเสิร์ฟแบบกึ่งสำเร็จรูปแล้ว



(* Tsukemen (つけ麺) เป็นราเมงประเภทหนึ่งที่แยกเส้นและซุปออกจากกัน วิธีกินคือต้องใช้ตะเกียบคีบเส้นจุ่มลงในน้ำซุป แล้วสูดเส้นขึ้นมาพร้อมกับน้ำซุป ซึ่งตัวน้ำซุปของ Tsukemen จะมีรสชาติเข้มข้นกว่าราเมงทั่วไป)

Nissin เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ วันที่ 19 กรกฎาคมนี้เอง "Raoh Tsukemen" นี้จะมีเส้นราเมงที่หนักถึง 260 กรัม และน้ำซุปมาให้ในถ้วยเดียวกัน เพียงแค่เติมน้ำร้อนและรอให้สุกก็สามารถทำ Tsukemen กินกันได้ง่ายๆ ทุกที่



ในตลาดคัพราเมงที่ผ่านมา ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ Tsukemen ยี่ห้อไหนที่ทำตลาดได้ดีมาก่อนเลย เพราะการที่จะทำเส้นและน้ำซุปให้ได้รสอร่อยเหมือนร้านมืออาชีพนั้นยากมาก แต่ว่า Raoh จะเน้นที่การทำ Tsukemen ที่ต่อให้เย็นแล้วก็ยังอร่อย

Raoh Tsukemen มาในบรรจุภัณฑ์รูปทรงแปดเหลี่ยม ที่เป็นแนวคิดใหม่ของภาชนะที่จะช่วยให้ผู้บริโภคถือได้กระชับมากขึ้น แต่ก็ยังมีความสูงถึง 10 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อวางในชั้นวางสินค้าของร้านค้าแล้วใหญ่มาก



วิธีต้ม Raoh Tsukemen จะใช้น้ำร้อน 820 มิลลิลิตร ต้มน้ำซุป และต้มเส้นประมาณ 5 นาทีแล้วเทน้ำออก จากนั้นก็เทน้ำเย็นใส่ไปเพื่อให้เส้นเย็นก็เสร็จเรียบร้อย



Raoh Tsukemen มีราคา 285 เยน (ไม่รวมภาษี) ซึ่งทางผู้ผลิตก็ได้กล่าวไว้ว่า "ถึงแม้จะใช้เวลาในการทำนานและยุ่งยาก แถมยังมีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบคัพราเมงแล้ว จะต้องได้พบกับความอร่อยสุดยอดแน่นอน"

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Myojo Foods ก็ได้วางจำหน่าย Tsukemen เช่นเดียวกัน



แต่ผลิตภัณฑ์ของ Myojo Foods มีเส้นให้มาแค่ 100 กรัม และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว Raoh Tsukemen ของ Nissin สร้างความประทับใจให้ผู้บริโภคได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งน้ำหนักของเส้นที่มากกว่า และความอร่อยและรูปร่างของเส้นหลังจากต้มแล้วก็เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด



สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ >> Nissin Raoh Tsukemen  


Posted by JGB Staff at 20:11Comments(1)

2011年07月13日

ยาทาลบรอยแผลเป็นให้สิ้นซาก

แผลเป็นที่เกิดจากการโดนของมีคมบาด หรือโดนไฟลวก ยังคงเป็นปัญหาสำคัญของสาวๆ ในทุกยุคทุกสมัย และตอนนี้ก็ได้มียาทาแผลเป็นชนิดใหม่ออกวางขายในคอนเซ็ปต์ที่ว่า "ยาทาลบรอยแผลเป็น" ซึ่งมีเสียงตอบรับดีมากจากผู้ใช้



"Atnon" (アットノン) ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฟาร์มาซีโคบายาชิ (โอซาก้า) ที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จะช่วยในการไหลเวียนของเลือด ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดในเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้รอยแดง รอยแผลเป็นต่างๆ หายไปได้

ด้วยคอนเซ็ปต์ของตัวยาที่ว่า "ยาทาลบรอยแผลเป็น" ที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าผู้หญิงมาก จากที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 650 ล้านเยน ก็ขายได้มากถึง 350 ล้านเยน ภายในเวลาเพียง 2 เดือน มากกว่าครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่ตั้งไว้เสียอีก

ยาตัวนี้มีราคา 1,365 เยน/ชิ้น สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วประเทศญี่ปุ่น ส่วนในประเทศไทยนั้น ก็ต้องรอดูว่าจะมีบริษัทยาเจ้าไหนนำเข้ามาจำหน่ายหรือเปล่า เชื่อว่ายาตัวนี้น่าจะใช้ได้ผลกว่าเย็นเตร็กซ์(เจ้าของเดียวกับโทนาฟ)แน่นอน

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติม เชิญที่เว็บไซต์ >> ATNON  


Posted by JGB Staff at 19:36Comments(0)

2011年07月12日

TG เพิ่มเที่ยวบินคันไซ-กรุงเทพ



การบินไทย (TG) ประกาศเพิ่มเที่ยวบินจากสนามบินนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น - กรุงเทพมหานคร โดยจะเริ่มวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 นี้ ปัจจุบันนี้มีเที่ยวบินให้บริการในเส้นทางนี้อยู่ 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจะทำการเพิ่ม 1 เที่ยวบินในวันอังคาร, วันพฤหัสบดี และวันศุกร์ รวมเป็นทั้งหมด 17 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยจะใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-300 มีที่นั่งชั้นธุรกิจ 34 ที่นั่ง และที่นั่งชั้นประหยัด 330 ที่นั่ง

การบินไทยต้องการอำนวยความสะดวกให้กับการเดินทางระหว่างเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ให้สามารถได้สะดวกเช่นเดียวกับยุโรป เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารได้เต็มที่

ตารางเวลาเที่ยวบินการบินไทย สนามบินนานาชาติคันไซ-กรุงเทพฯ

- เที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น *เริ่มให้บริการวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554
TG623 KIX 17:00 (Departure Time) / BKK 21:30 (Arrival Time) *อังคาร,พฤหัสบดี,ศุกร์
TG672 BKK 08:30 (Departure Time) / KIX 15:40 (Arrival Time) *อังคาร,พฤหัสบดี,ศุกร์

- เที่ยวบินที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน (กรกฎาคม 2554)
TG623 KIX 11:45 (Departure Time) / BKK 15:35 (Arrival Time)
TG673 KIX 00:30 (Departure Time) / BKK 04:20 (Arrival Time)
TG622 BKK 23:30 (Departure Time) / KIX 07:00 (Arrival Time)
TG672 BKK 11:00 (Departure Time) / KIX 18:30 (Arrival Time)  


Posted by JGB Staff at 19:33Comments(0)

2011年07月11日

Uso Beer แก้วเบียร์โกหกสุดฮิต




Uso Beer แปลเป็นภาษาไทยว่า เบียร์โกหก เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Pilot Ink ที่เมื่อเราเทน้ำเปล่าเย็นๆ ลงไป สีของแก้วจะเปลี่ยนเป็นเบียร์เหมือนในรูป หลอกให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเรากำลังดื่มเบียร์อยู่ ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้กำลังขายดีมากในญี่ปุ่น เพราะใช้หลอกคนอื่นกันสนุกสนาน Pilot Ink ได้ใช้ Metamo Ink ซึ่งเป็นหมึกที่ตอบสนองต่ออุณหภูมิในการผลิตแก้วเบียร์โกหกนี้

แก้วเบียร์โกหกนี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา และก็ขายได้ 3,000 ใบในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ ต้องขายให้ได้ 30,000 ใบภายในปีนี้ แต่เมื่อดูจากกระแสตอบรับแล้ว น่าจะขายได้ถึงเป้าก่อนกำหนดเสียอีก

สำหรับหมึก Metamo Ink เป็นหมึกพิเศษที่ Pilot Ink ใช้เวลาพัฒนากว่า 30 ปี เป็นหมึกที่ตอบสนองต่ออุณหภูมิ เช่น เมื่ออุณหภูมิเท่านี้สีจะหายไปบ้าง, สีจะปรากฎขึ้นมาบ้าง หรือเปลี่ยนเป็นสีอื่นไปเลย ซึ่งบริษัทก็ได้นำเอาหมึกนี้ไปใช้ในการพัฒนาสินค้าอื่นๆ มาตั้งแต่ปี 1975 เช่น แก้วน้ำที่เมื่อเทน้ำร้อนลงไปแล้วสีของภาพจะเปลี่ยนไป, เซ็ตเปลี่ยนสีน้ำในอ่างอาบน้ำให้เหมือนน้ำชา, และนำไปใช้ในของเล่นเด็กต่างๆ มากมาย



นอกจากแก้วเบียร์โกหกแล้ว ยังมี "Uso Wine" หรือ ไวน์โกหก และ Uso Cocktail หรือ ค็อกเทลโกหก ที่เปิดตัวพร้อมกันอีกด้วย และก็เหมือนกับแก้วเบียร์โกหกคือ กระแสตอบรับดีมากเช่นกัน ซึ่งจุดขายของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้คือ ความสนุกที่ได้เห็นสีของแก้วเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เทลงไปในแก้ว เช่น ถ้าเทน้ำมะเขือเทศลงไปในแก้วเบียร์โกหก จะเห็นเป็นแกงกะหรี่ แต่ถ้าเทใส่แก้วค็อกเทลโกหก จะดูเหมือนช็อกโกแลตร้อน หรือถ้าเทน้ำโคล่าลงไปในแก้วค็อกเทลโกหก จะเห็นเป็นชาข้าวบาร์เลย์ หรือเทนมสดธรรมดาลงไปในแก้วไวน์โกหกจะเห็นเป็นนมรสสตรอเบอร์รี่  


Posted by JGB Staff at 19:58Comments(0)

2011年07月08日

Spy Pen ปากกากล้องถ่ายวิดีโอ



สินค้าจากบริษัท Thanko (เขตจิโยดะ, โตเกียว) ชิ้นนี้ ที่มองผ่านๆ ก็ดูเป็นปากกาธรรมดา กำลังฮิตมากในกลุ่มลูกค้าชายช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่จริงแล้วปากกาด้ามนี้เป็น "ปากกา USB กล้องถ่ายวิดีโอ HD" ด้วยปากกาด้ามนี้ คุณสามารถบันทึกวิดีโอแบบปกติก็ได้ หรือบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง HD ก็ยังได้ และคุณยังสามารถตั้งค่าคุณภาพของไฟล์ที่คุณต้องการได้ด้วยตนเอง

Spy Pen ด้ามนี้มีความยาวประมาณ 14 เซนติเมตร หนักเพียง 31 กรัม ไม่ต่างจากปากกาปกตินัก ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทางพอร์ต USB ใช้เวลาประมาณ 75 นาที รองรับเมมโมรี่สติ๊กแบบ microSD สูงสุด 32 GB ขนาดของไฟล์วิดีโอที่บันทึกได้คือ 1280x960 พิกเซล ซึ่งคุณสามารถปรับแต่งได้เองด้วยคอมพิวเตอร์ในภายหลัง

ปกติแล้ว Thanko เป็นบริษัทที่จำหน่ายสินค้า USB แปลกๆ แบบนี้มานานแล้ว และ Spy Pen ชิ้นนี้ก็ผลิตขึ้นตามคำเรียกร้องของลูกค้าที่ต้องการให้ผลิตสินค้าชิ้นนี้ เปิดตัวครั้งแรกเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา และขายได้มากกว่า 500 ด้ามแล้ว

Spy Pen ราคา 4,980 เยน หรือประมาณ 1,850 บาท

สนใจเกี่ยวกับ Spy Pen เชิญชมที่เว็บไซต์นี่ >> Spy Pen  


Posted by JGB Staff at 20:27Comments(0)

2011年07月08日

บ้านสำหรับแมวน้อยแสนรักของคุณ

บริษัท Sanritsu ผู้ผลิตสินค้าสำหรับแมวยี่ห้อ CATBATH Hills ได้ผลิตสินค้าสำหรับแมวชิ้นใหม่ชื่อว่า Cat Base Cookie เป็นบ้านสำหรับแมวนั่นเอง โดยคำนึงถึงลักษณะนิสัยของแมวที่ชอบมุดเข้ามุดออกตามรูในการออกแบบด้วย



อิมเมจของสินค้าคือ "บ้านขนม" มีดีไซน์ที่รวมสิ่งที่แมวชอบไว้ทุกอย่าง มีลักษณะคล้ายลิ้นชักให้แมวเข้าไปนอน และมีรูเล็กๆ อยู่รอบๆ ข้าง ให้คุณสามารถแหย่นิ้วเข้าไปหยอกล้อกับน้องเหมียวของคุณได้ หลังคาด้านบนก็ยังมีลักษณะที่โค้งรับกับร่างกายของแมวได้พอดี วัสดุที่ใช้ในการทำบ้านแมวหลังนี้ก็คือ กระดาษแข็ง นั่นเอง ทำให้มีราคาถูก แต่คุณภาพก็ไม่ได้น้อยไปตามราคา เพราะอายุการใช้งานถือว่าคุ้มกับราคาแน่นอน

สำหรับบ้านน้องเหมียว Cat Base Cookie นี้ มีราคาเพียง 1,974 เยน หรือประมาณ 750 บาทเท่านั้น มีขนาดกว้าง 35 cm ยาว 50 cm สูง 25 cm หนักเพียง 0.8 กิโลกรัมเท่านั้นเอง หลังออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้รับกระแสตอบรับดีมากเลยทีเดียว



สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม
CATBATH Hills  


Posted by JGB Staff at 20:00Comments(0)